ค้นหา
ไทย
  • English
  • 正體中文
  • 简体中文
  • Deutsch
  • Español
  • Français
  • Magyar
  • 日本語
  • 한국어
  • Монгол хэл
  • Âu Lạc
  • български
  • Bahasa Melayu
  • فارسی
  • Português
  • Română
  • Bahasa Indonesia
  • ไทย
  • العربية
  • Čeština
  • ਪੰਜਾਬੀ
  • Русский
  • తెలుగు లిపి
  • हिन्दी
  • Polski
  • Italiano
  • Wikang Tagalog
  • Українська Мова
  • อื่น ๆ
  • English
  • 正體中文
  • 简体中文
  • Deutsch
  • Español
  • Français
  • Magyar
  • 日本語
  • 한국어
  • Монгол хэл
  • Âu Lạc
  • български
  • Bahasa Melayu
  • فارسی
  • Português
  • Română
  • Bahasa Indonesia
  • ไทย
  • العربية
  • Čeština
  • ਪੰਜਾਬੀ
  • Русский
  • తెలుగు లిపి
  • हिन्दी
  • Polski
  • Italiano
  • Wikang Tagalog
  • Українська Мова
  • อื่น ๆ
ชื่อ
การถอดเสียง
ต่อไป
 

กฎแห่งเหตุและผล: เรื่องจริงเกี่ยวกับกรรม และการเปลี่ยนแปลงทางจิตวิญญาณ ตอนที่ 3 ของซีรีส์หลายตอน

รายละเอียด
ดาวน์โหลด Docx
อ่านเพิ่มเติม
เรื่องราวของเราในวันนี้ย้อนกลับไป ในปี 1978 ที่เอาหลัก (เวียตนาม) ซึ่งมีเหตุการณ์ลึกลับและ น่ากังวลเปิดเผยเกิดขึ้น ต่อมามีพระภิกษุรูปหนึ่งที่ได้เห็น เหตุการณ์ด้วยตนเองได้เล่าให้ฟัง เป็นเรื่องน่าสะเทือนขวัญของกรรม การกลับชาติมาเกิด และผลที่ค้างคาใจ ในอดีตชาติ ที่เชื่อมโยงกับหญิงสาวคนหนี่ง ชื่อ หง็อกฮันห์ ซึ่งต่อมาได้บวชเป็นแม่ชีที่ วัดจุ๊กลัมอันเป็นที่เคารพนับถือ ในดาลัต เอาหลัก (เวียดนาม)

ในเวลานั้น เธอเป็นนักศึกษาชั้นปีสุดท้าย ที่มหาวิทยาลัย ศึกษาศาสตร์แห่งเมืองเว้ ครอบครัวทั้งหมดของเธอ ไม่เคยได้เข้าถึงพุทธศาสนามาก่อน เนื่องจากบ้านเกิดของเธออยู่ไกล เธอจึงพักอยู่ ในหอพักของมหาวิทยาลัย วันหนึ่งโรงเรียนให้ นักเรียน หยุดเรียนหลายวันเพื่อ เตรียมตัวสอบเพื่อสำเร็จการศึกษา เธอจึงถือโอกาส ไปเยี่ยมครอบครัวของเธอ คืนหนึ่งตอนดึก ๆ ขณะที่เธอกำลังอ่านหนังสืออยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีงูตัวใหญ่ เลื้อยเข้ามาทางหน้าต่าง เธอกรีดร้องจน คนทั้งบ้านตื่น พ่อของเธอตกใจตื่นจากหลับ คว้ากลอนประตูแล้วรีบวิ่ง ไปหาตัวงู ฆ่ามันตายทันที

ไม่นานหลังจาก เหตุการณ์ที่น่าสะพรึงกลัวนั้น พ่อของหง็อกฮันห์ ก็หยุดกินอาหารกะทันหัน สุขภาพของเขาเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว วันแล้ววันเล่าโดยไม่ทราบสาเหตุ ที่ชัดเจน แม้ว่าเขาจะเข้ารับ การรักษาในหลาย ๆ แห่งก็ตาม แล้ววันหนึ่งก็มีข่าวว่า เขาเสียชีวิตแล้ว เมื่อได้ยินเช่นนี้ หง็อกฮันห์ก็รีบ หยุดพักเรียน และกลับบ้านเกิด เพื่อเข้าร่วมงานศพของเขา ก่อนที่พิธีฝังศพจะเริ่มต้นขึ้น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ทั้งครอบครัว และญาติพี่น้องของเธอตกตะลึง คือการกระทำแปลก ๆ และไม่คาดคิดที่ เธอเริ่มแสดงออกมา เมื่อกลับถึงบ้าน

หง็อกฮันห์มาถึงด้วยความโกรธเกรี้ยว บุกเข้าไปในบ้าน ผลักทุกคนออกไป และพุ่งตรงไปที่ โลงศพของพ่อของเธอ ที่นั่น เธอใช้มือเปล่า ฉีกผ้าที่มัดทั้งหมดออก และเปิดฝาออก เธอดึงผ้าห่อศพทุกชั้น ที่จะไปฝัง และของใช้ในพิธีกรรม ที่คลุมร่างนั้นออก จนกระทั่งเผยให้เห็น ใบหน้าของพ่อเธอ ทุกคนตกใจเกินกว่าจะตอบสนอง โดยคิดว่าเธอ แค่เสียใจมาก และอยากเห็นพ่อ เป็นครั้งสุดท้าย แต่แล้วพวกเขาก็ต้องตกตะลึง เมื่อพบว่าเธอเริ่ม ข่วนหน้าเขาด้วยนิ้วทั้งสิบนิ้ว จนผิวหนังฉีกขาด จากนั้นนางก็วิ่งออกไป กลางถนน หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง และตะโกนว่า “ฉันแก้แค้นมันได้แล้ว!” ฉัน ได้แก้แค้นความแค้นทั้งสองของฉัน!

หลังจากนั้น เธอได้อ่าน บทกวียาว ๆ หนึ่งด้วยเสียงอันดัง ผ่านทางบทกวีนั้นเปิดให้เห็นว่า เธอถูกเข้าสิง โดยวิญญาณที่เต็มไปด้วยความแค้น เรื่องราวนั้นได้เป็นไปอย่างนี้ หลายชั่วชีวิตก่อน หง็อกฮันห์เป็นชายที่แต่งงานแล้ว ประพฤติผิดประเวณี แล้วได้ฆ่าภรรยาของเขา ภรรยานั้นตายด้วยความทุกข์ระทม ได้ไปเกิดใหม่เป็นงู เพื่อที่จะแก้แค้น งูนั้นเข้ามา ที่บ้านของเธอ ของหง็อกฮันห์ ตั้งใจจะฆ่าเธอ แต่ถูกฆ่าโดยพ่อของเธอ ที่งานศพ เป็นวิญญาณเดียวกับ หญิงที่ทุกข์ระทมนั้น ที่เข้าสิง หง็อกฮันห์ และทำให้เธอกรีด ใบหน้าพ่อที่ตายไปของเธอ

หลังจากเหตุการณ์ที่น่าเศร้าโศกนั้น หง็อกฮันห์เริ่มประสบกับ อาการถูกวิญญาณเข้าสิง และชีวิตของเธอก็เต็มไปด้วยความ โชคร้ายที่ดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ เนื่องจากไม่เคยได้เข้าถึง คำสอนของพระพุทธเจ้ามาก่อน เธอจึงได้แค่สามารถหันไปพึ่ง สิ่งศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นและอธิษฐาน อย่างจริงจังเพื่อขอความช่วยเหลือ ในการแก้ไขกรรม ที่เธอติดอยู่ โดยไม่รู้ตัว คำอธิษฐานที่จริงใจของเธอ ได้ไปถึงพระอาจารย์เซน ผู้ล่วงลับไปแล้ว กว่า 200 ปีก่อน ในการตอบสนองทางจิตวิญญาณ ที่หายาก อาจารย์ได้เข้าสู่ จิตสำนึกของเธอ และแนะนำให้เธอเริ่มเส้นทาง แห่งการบำเพ็ญทางจิตวิญญาณ ภายใต้การแนะนำของพระเถระใหญ่ ที่วัดจุ๊กลัม อย่างไรก็ตาม วิญญาณอาฆาตของงู ยังคงเข้าสิงเธอ คอยรบกวนเธอทุกครั้ง เธอคิดจะละทิ้ง การฝึกฝนของเธอ ด้วยความเมตตาอันลึกล้ำและ ความหยั่งรู้ถึงพันธะกรรมของพวกเขา พระเถระใหญ่ได้เสนอให้คำสอน แก่ทั้งสองจิตวิญญาณ และแก่ หง็อกฮันห์

พระเถระใหญ่กล่าวแก่วิญญาณว่า “บัดนี้ ฉันจะช่วยให้เธอ ไปพึ่งพิงพระรัตนตรัย เธอจะติดตามพระพุทธะแทนการ เกาะติดกับหญิงสาวคนนี้หรือไม่? จากนั้นเขาได้ทำพิธี พึ่งพิงให้กับ ทั้งหง็อกฮันห์และวิญญาณ ที่เข้าสิงเธอ วิญญาณนั้นได้รับ ชื่อทางธรรมะว่า เทิมทิน (หัวใจแห่งศรัทธา) ในขณะที่ หง็อกฮันห์ได้รับ ชื่อ เทิมเถื่อง (หัวใจแห่งความคิด) ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เธอ สามารถปฏิบัติธรรมได้อย่างสงบ ไม่ถูกทรมานหรือรบกวนอีกต่อไป

หลังจากนั้นไม่นาน ในระหว่างช่วงนั่งสมาธิอย่างเงียบ ๆ พระเถระใหญ่ ได้ถูกแม่ชี เทิมเถื่อง เข้ามาหาอย่างเร่งรีบ โดยไม่คาดคิดและ กล่าวกับท่านด้วยความเคารพ

ผ่านทาง เทิมเถื่อง เทิมทินกล่าวว่า: “ท่านพระเถระใหญ่ที่เคารพ จากนี้ไป ข้าพเจ้าจะ ไม่รบกวน หง็อกฮันห์ อีกต่อไป ข้าพเจ้าได้พบ สถานที่ใหม่ของข้าพเจ้าเพื่อเกิดใหม่ และมาแสดงความขอบคุณ และกล่าวอำลาท่าน”

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม่ชี เทิมเถื่อง อุทิศตนอย่างเต็มที่ในการ ปฏิบัติธรรมอย่างขยันขันแข็ง ขณะเดียวกัน ครอบครัวของ เธอก็นับถือพระรัตนตรัย และกลายมาเป็นพุทธศาสนิกชนด้วย เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ความทุกข์และความเป็นศัตรูทั้งหมด ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เกิดจากกฏ แห่งเหตุและผล ที่ผูกโยงกันผ่านกรรม ที่สะสมกันมาหลายภพหลายชาติ มีเพียงแค่ผ่านทางความรัก สำนึกผิดอย่างจริงใจ ปล่อยวาง และ การปฏิบัติธรรมอย่างมั่นคงเท่านั้น ที่เราจะสามารถเปิดสู่เส้นทางการ หลุดพ้นและการตรัสรู้ได้อย่างแท้จริง

ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ (วีแกน) เคยเล่าเรื่องราวอันล้ำลึก ที่แสดงให้เห็นถึงพลัง ของการให้อภัย และความไร้ประโยชน์ของการแก้แค้น

มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับ คน ๆ หนึ่งที่แก้แค้น โดยการกดขี่คนอื่น และอีกคน ตั้งใจที่จะแก้แค้น ดังนั้น เขาจึงทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ ความร่ำรวย และชื่อเสียง เพื่อที่เขาจะสามารถโต้กลับ อีกฝ่ายได้ ขณะที่คนผู้นี้ถูก ถูกโจมตี เขายังคงทุกข์ทรมาน ยังคงยากจน ยังคงอ่อนแอ ดังนั้น ไม่อาจต่อสู้กลับได้ เพราะอีกฝ่ายหนึ่งร่ำรวย มีอำนาจ และมีอิทธิพล ดังนั้นบุคคลนี้จึงกล้ำกลืน ความแค้นของตนและรอจนถึง วันที่เขาประสบความสำเร็จ ที่จะทำการแก้แค้น อีกฝ่ายหนึ่ง เมื่อถึงเวลาที่ ผู้ถูกกดขี่คนนี้ ประสบความสำเร็จในที่สุด อีกฝ่ายหนึ่งที่เคย กดขี่เขามาก่อน กลับกลายเป็นคนยากจนและหิวโหย สิ่งต่าง ๆ กลับพลิกกลับ [คนนี้] ตอนนี้ อ่อนแอและโดดเดี่ยว แล้วอีกคนหนึ่ง บอกว่า เขาจะไม่ แก้แค้นอีกแล้ว มีคนถามเขาว่า “ทำไมคุณไม่แก้แค้น เมื่ออีกคนเคย ข่มเหงคุณ ตีคุณ และปฏิบัติต่อคุณอย่างไม่ยุติธรรม? เมื่อก่อน คุณไม่สามารถแก้แค้นได้ และมันก็เข้าใจได้ ตอนนี้คุณมี อำนาจและความแข็งแกร่งทั้งหมด ทำไมคุณไม่แก้แค้นล่ะ?” ชายคนนั้นกล่าวว่า “เมื่อก่อนนี้ผมไม่สามารถแก้แค้น เพราะผมอ่อนแอ ไม่มีใครปกป้องผม และไม่มีอำนาจ” หากผมแก้แค้นตอนนั้น ผมคงตายไปแล้ว ตอนนี้ผมสามารถตอบโต้ได้ เมื่ออีกฝ่ายอ่อนแอ ผมสามารถแก้แค้นได้ แต่การทำแบบนั้นก็เท่ากับว่า ผู้แข็งแกร่งรังแกผู้ที่อ่อนแอกว่า เช่นเดียวกับสิ่งที่เขาทำกับผม ลืมมันไปเถอะ ผมไม่ อยากแก้แค้นอีกแล้ว”

เอาล่ะ ไม่เป็นไร ลืมมันไปได้เลย ทุกครั้ง ผมก็แค่ลืมมันไป นั่นแหละถูกต้องแล้ว นั่นถูกต้องแน่นอน และเป็นไปตามวิถีทาง

ผ่านเรื่องราวนี้ เราเห็นว่าความเข้าใจและการให้อภัย สามารถละลายโซ่แห่งความ เกลียดชังที่ไม่มีที่สิ้นสุดได้อย่างไร เราขอขอบพระคุณอย่างสูงต่อ ท่านอาจารย์ผู้เมตตาที่สุด ที่เตือนเราว่าการเลือก ความเมตตาแทนการแก้แค้น ไม่เพียงทำให้ผู้อื่นเป็นอิสระเท่านั้น แต่ยังทำให้ตัวเราเองเป็นอิสระด้วย โดยทำให้จิตใจของเราสอดคล้อง กับแก่นแท้ ของการปฏิบัติทางจิตวิญญาณ อย่างที่เราสรุป ขอให้บทเรียน จากเรื่องราวในวันนี้ ปลุกจิตสำนึกของเราถึงกฎแห่งเหตุ และผลให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และสร้าง แรงบันดาลใจให้เราปลูกฝังความสงบ คุณธรรม และความแจ่มชัดภายใน บนเส้นทาง สู่การหลุดพ้นที่แท้จริง
รับชมเพิ่มเติม
วีดีโอล่าสุด
ระหว่างอาจารย์และลูกศิษย์
2025-12-06
1 รับชม
ข่าวเด่น
2025-12-05
756 รับชม
ระหว่างอาจารย์และลูกศิษย์
2025-12-05
880 รับชม
41:01

ข่าวเด่น

238 รับชม
ข่าวเด่น
2025-12-04
238 รับชม
ถ้อยคำแห่งปัญญา
2025-12-04
800 รับชม
แบ่งปัน
แบ่งปันไปที่
ฝัง
เริ่มที่
ดาวน์โหลด
โทรศัพท์มือถือ
โทรศัพท์มือถือ
ไอโฟน
แอนดรอยด์
รับชมในบราวเซอร์ในโทรศัพท์มือถือ
GO
GO
Prompt
OK
แอพ
สแกนโค้ดคิวอาร์ เลือกระบบโทรศัพท์ที่ถูกต้อง เพื่อดาวโหลด
ไอโฟน
แอนดรอยด์